พรมปูพื้น เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หลาย ๆ คนนิยมนำมาแต่งบ้านหรือห้องนอน เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้บ้านดูสวยงามและมีสไตล์ แต่หลายคนอาจจะกังวลเรื่องฝุ่น วันนี้ i woke up in the future จึงได้รวบรวม พรมปูพื้น ไม่เก็บฝุ่น มาฝากผู้อ่านทุก ๆ คน พร้อมแนะนำวิธีการเลือกพรม เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด จะมีแบบไหนบ้าง ตามไปดูได้เลย
วิธีเลือกพรมปูพื้นราคาถูก ควรเลือกจากอะไร
ปัจจุบัน พรมปูพื้น มีออกมาให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด สามารถเลือกซื้อพรมปูพื้นให้คุ้มค่ากับราคาได้ดังนี้
1. ความทนทาน
สิ่งแรกที่ควรคำนึงเกี่ยวกับการเลือก พรมปูพื้น ก็คือความทนทานเพื่อรองรับการใช้งานให้เกิดประโยชน์ที่สุด ตัวพรมต้องมีการถักทอด้วยความหนาแน่น เพื่อป้องกันการฉีกขาดหรือหลุดลุ่ยระหว่างใช้งาน โดยเฉพาะพรมที่เอาไว้ใช้ในห้องนั่งเล่น
2. วัสดุที่นำมาทำ พรมปูพื้น
การเลือกเส้นใยหรือวัสดุของ พรมปูพื้น มีผลต่อความทนทาน
- ไนลอน พื้นผิวของพรมมีความยืดหยุ่นสูง ให้สัมผัสนุ่ม และสบายเท้ามาก แต่ข้อเสียคือสกปรกง่าย
- Triextra เป็นเส้นใยที่ได้มาจากใยข้าวโพด มีความทนทาน ยืดหยุ่นสูง ไม่ฉีกขาดง่าย จุดเด่นของ พรมปูพื้น ที่ทำมาจาก Triextra คือช่วยป้องกันคราบสกปรกได้ดี ทำให้ การตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
- โพลีเอสเตอร์ หรือ PET เส้นใยที่มีความทนทานต่อคราบสกปรก เป็น พรมปูพื้น ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะใช้งานแล้วให้ความรู้สึกสบายเท้า แต่ก็แอบยากต่อการทำความสะอาด และไม่ได้มีความทนทานเท่ากับตัวเลือกอื่น ๆ เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งในห้องนอนมากกว่าห้องนั่งเล่น
- Olefin โอเลฟินนับเป็น พรมปูพื้น ราคาถูก ที่สุด และถ้าผ่านการย้อมสีมาแล้ว จะไม่ทำให้สีของพรมซีดจางง่าย แต่อาจจะทนทานเหมือนพรมที่ทำมาจากไนลอน
3. ดูแลทำความสะอาดง่าย
หากเลือก พรมปูพื้น สำหรับห้องนอนอาจจะไม่ต้องกังวลเรื่องการทำความสะอาดเท่าไร เพราะไม่ได้ผ่านการใช้งานเยอะเหมือนกับ พรมปูพื้น ห้องนั่งเล่น โดยสามารถเลือกได้จากวัสดุของพรม เพราะมีพรมบางชนิดอย่างโพลีเอสเตอร์ และ Triextra ที่ช่วยป้องกันคราบสกปรกได้
4. เลือกจากการออกแบบของพรม
พรมปูพื้น มีหลายรูปแบบหลายสไตล์ มีทั้งแบบเรียบ แบบคลีน และแบบขนปุย ซึ่งการเลือกซื้อพรมก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งานได้เลย หรือจะพิจารณาจากสไตล์ของบ้านก็ได้ เพื่อให้พรมปูพื้นไม่รู้สึกโดดออกมาจากของตกแต่งชนิดอื่น ๆ
5. ความนุ่มนวลของพรม
อีกหนึ่งหัวใจหลักของการเลือกซื้อ พรมปูพื้น คืออ่อนโยนและความนุ่ม เมื่อสัมผัสแล้วต้องทำให้เกิดความรู้สึกที่สบายเท้า และที่สำคัญเส้นใยต้องมีความหนาแน่นด้วย เพื่อให้เกิดการใช้งานในระยะยาว
6. การเลือกสีของพรม
จริง ๆ เรื่องสีของพรมจะบ่งบอกถึงรสนิยมและสไตล์ของเราด้วย หากต้องการเพิ่มบรรยากาศภายในบ้านให้ดูละมุนอบอุ่นขึ้น แนะนำให้เลือกสีเบจ หรือสีอ่อน ๆ เป็นหลัก เพราะเวลากระทบกับแสงธรรมชาติจะทำให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น
พรมปูพื้น มีกี่ประเภท อะไรบ้าง แบบไหนดีที่สุด
พรมปูพื้นส่วนใหญ่นิยมทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ พรมแบบ Loop Pile และพรมแบบ Cut Pile
-
พรมแบบ Loop Pile
พรม Loop Pile เป็น พรมปูพื้นผืนใหญ่ โดยพรมประเภทนี้ไม่ตัดแต่งขน จะเป็นเส้นขนดั้งเดิมหลังจากทอเสร็จ ส่วนใหญ่ทำมาจากไนลอน ผิวสัมผัสของพรมจึงมีความหยาบ ขรุขระ และมีความทนทานมาก นิยมใช้ปูพื้นทางเดินหรือพื้นที่บริเวณกว้าง ๆ อย่างห้องนั่งเล่น
-
พรมแบบ Cut Pile
พรม Cut Pile เป็นพรมที่ผ่านการตัดแต่งเส้นใยมาแล้วเรียบร้อย ทำให้เส้นใยของพรมมีความเรียบสม่ำเสมอกันหลังทอเสร็จ ทำให้พรมประเภทนี้มีดูสวยงามเป็นทางการ พื้นนุ่ม เหมาะกับการปูพื้นเพื่อ ตกแต่งห้องนอน ห้องนั่งเล่น แต่ข้อเสียคือมีความทนทานน้อยกว่าพรม Loop Pile
เทคนิคทำความสะอาดพรมปูพื้น ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ให้เสียรูปทรง
พรมปูพื้น แต่ละประเภทมีวิธีดูแลรักษาที่ต่างกัน บางชนิดไม่สามารถใช้น้ำยาที่มีสารเคมีทำความสะอาดง่าย บางชนิดอาจจะไม่กันน้ำ ดังนั้น ก่อนเลือกพรมเราต้องรู้ด้วยว่าวัสดุมันทำมาจากอะไร ส่วนการทำความสะอาดก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำความสะอาดง่าย ๆ ได้ ดังนี้
- ดูดฝุ่นจากพรมออกก่อนทั้งสองข้าง จะไม่ดูดเฉพาะด้านที่โดนใช้งานเท่านั้น
- เริ่มทำความสะอาด พรมปูพื้น ผืนใหญ่ จากรอยเปื้อนที่มองเห็นได้ชัดด้วยน้ำยาทำความสะอาดพรม โดยนำแปรงขนอ่อนจุ่มน้ำแล้วขัดเบา ๆ ส่วนการล้างน้ำยาออก ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วเช็ดออก
- หลังจากทำความสะอาดพรมเสร็จแล้ว ให้นำพรมไปผึ่งลมให้แห้ง ไม่แนะนำให้ตากแดด เพราะจะทำให้สีของพรมซีดลงได้
สรุป พรมปูพื้น ของแต่งบ้านที่ทุกหลังต้องมี!
การเลือก พรมปูพื้น นับเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญในการแต่งบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น ใครที่ยังไม่มีไอเดียหรือยังไม่รู้ว่าไอเทม ขึ้นบ้านใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง สามารถเริ่มจากของชิ้นเล็ก ๆ อย่างพรมปูพื้นก่อนได้ เพื่อเป็นแนวทางให้ตัวเองว่าต้องการสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้ออกมาเป็น mood & tone แบบไหน